เสริมจมูกซิลิโคน ไม่ได้เหมาะกับทุกคน!?

เสริมจมูกซิลิโคน

เสริมจมูกซิลิโคน ไม่ได้เหมาะกับทุกคน!?

การเสริมจมูกซิลิโคน เป็นทางเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการปรับลุค เพิ่มมิติให้กับใบหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนเอเชียที่มักมีดั้งจมูกไม่โด่งเท่าคนฝั่งยุโรป อย่างไรก็ตาม การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนไม่ได้เหมาะกับทุกคน และยังมีความเข้าใจผิดที่หลายคนอาจไม่ทราบเกี่ยวกับวิธีนี้ มาดูกันว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเหมาะกับใคร และใครบ้างที่ควรพิจารณาวิธีอื่นแทน


การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เหมาะกับใคร?

การเสริมจมูกซิลิโคนเหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงจมูกสวยอยู่แล้ว เพียงแค่ขาดความโด่งหรือมิติจากด้านข้าง เช่น:

  • คนที่มีฐานจมูกได้รูป แต่ต้องการเพิ่มความสูงของดั้ง
  • คนที่มองด้านหน้าแล้วจมูกดูสมส่วน แต่ขาดมิติเมื่อมองจากด้านข้าง

ซิลิโคนจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้ใบหน้าได้ในกรณีที่รูปทรงจมูกของคุณไม่ต้องการการแก้ไขโครงสร้างมากนัก

ใครที่ไม่เหมาะกับการเสริมจมูกซิลิโคน?

การเสริมจมูกซิลิโคนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก เช่น:

  1. จมูกสั้นเกินไป: การยืดปลายจมูกต้องใช้เทคนิคเสริมกระดูกอ่อนร่วมด้วย
  2. จมูกใหญ่หรือทรงชมพู่: ต้องแก้ไขโดยการลดขนาดจมูก
  3. ปีกจมูกบาน: จำเป็นต้องตัดปีกจมูกร่วมกับการเสริมดั้ง
  4. ฐานจมูกกว้าง: ต้องปรับโครงสร้างฐานจมูกก่อน
  5. จมูกไม่สมส่วนกับใบหน้า: ต้องพิจารณาปรับโครงสร้างร่วมกับการใช้ซิลิโคน

ในกรณีเหล่านี้ การศัลยกรรมแบบเปิด (Open Rhinoplasty) หรือการปรับโครงสร้างจมูกจะเหมาะสมกว่า


ศัลยกรรมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) และแบบเปิด (Open Rhinoplasty) คืออะไร

  1. ศัลยกรรมจมูกแบบปิด

    • การผ่าตัดแผลจะซ่อนอยู่ภายในรูจมูก โดยไม่เปิดแผลด้านนอก
    • เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการปรับทรงดั้งจมูกหรือเพิ่มความโด่งเท่านั้น
    • ข้อดี: เจ็บตัวน้อย แผลหายไว ไม่มีแผลเป็นภายนอก
  2. ศัลยกรรมจมูกแบบเปิด

    • เป็นการเปิดแผลขนาดเล็กที่ฐานจมูกบริเวณใต้รูจมูกเพื่อให้เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด
    • เหมาะกับเคสที่ต้องการปรับโครงสร้างจมูก เช่น การยืดปลายจมูก การลดขนาดฐานจมูก
    • ข้อดี: แพทย์สามารถปรับแต่งโครงสร้างจมูกได้ละเอียดมากขึ้น
    • ข้อเสีย: มีแผลผ่าตัดภายนอก อาจใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าแบบปิด

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเสริมจมูกซิลิโคน

  1. "เสริมจมูกซิลิโคนทำให้จมูกเล็กลงได้"
    ไม่เป็นความจริง! การเสริมซิลิโคนเพิ่มความสูงของดั้ง แต่ไม่สามารถลดขนาดฐานจมูกหรือทำให้จมูกดูเล็กลงได้

  2. "เสริมจมูกซิลิโคนทำให้จมูกยาวขึ้น"
    การใส่ซิลิโคนที่ยาวเกินไป อาจทำให้ผิวหนังที่ปลายจมูกบางลงจนซิลิโคนทะลุในอนาคต การยืดจมูกต้องใช้กระดูกอ่อนจากหลังหูหรือซี่โครงร่วมด้วย

  3. "เสริมซิลิโคนแล้วตัดปีกจมูกทำให้จมูกเล็กลง"
    การตัดปีกจมูกช่วยให้ปีกเล็กลง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนขนาดจมูกโดยรวมได้

  4. "เสริมจมูกซิลิโคนแบบเปิดจะดีกว่า"
    สำหรับเคสที่ไม่ต้องปรับโครงสร้าง การเสริมแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เพียงพอแล้ว การเปิดแผลใหญ่เกินไปอาจเป็นการเจ็บตัวโดยไม่จำเป็น

ข้อควรระวังในการเสริมจมูกซิลิโคน

  • เลือกซิลิโคนที่เหมาะสม: ซิลิโคนมีหลายเกรดและหลายรูปทรง ต้องเลือกให้เข้ากับโครงหน้าของแต่ละคน
  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: การประเมินปัญหาจมูกโดยละเอียดจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัย
  • อย่าเน้นราคาถูกเกินไป: คลินิกราคาถูกอาจใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน

ขั้นตอนการเสริมจมูกซิลิโคน

  1. ปรึกษาแพทย์

    • ประเมินโครงหน้าและทรงจมูกที่เหมาะสม
    • เลือกซิลิโคนเกรดและรูปทรงที่เหมาะกับคุณ
  2. การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

    • งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
    • งดแอลกอฮอล์ ยาแอสไพริน หรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1-2 สัปดาห์
    • หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ล่วงหน้า
  3. การผ่าตัด

    • ทำความสะอาดและฉีดยาชาเฉพาะจุด
    • แพทย์เปิดแผลตามเทคนิคที่เลือก (แบบปิดหรือแบบเปิด)
    • ใส่ซิลิโคนตามตำแหน่งที่วางแผนไว้ ปรับทรงจมูกให้เหมาะสม
    • เย็บปิดแผลและติดเฝือกเพื่อประคองทรงจมูก
  4. การพักฟื้นหลังผ่าตัด

    • พักในคลินิกหรือตามคำแนะนำของแพทย์

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกซิลิโคน

  1. งดอาหารเสริมและยาที่มีผลต่อเลือด
    เช่น น้ำมันปลา โสม แอสไพริน และวิตามินอี เพราะอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง

  2. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
    อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด

  3. พักผ่อนให้เพียงพอ
    การนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายพร้อมรับการผ่าตัด


การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกซิลิโคน

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูกโดยตรง
    ห้ามจับหรือกดบริเวณจมูกแรงๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนของซิลิโคน

  2. นอนศีรษะสูง
    ใช้หมอนรองคอหรือนอนหมอนสูงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม

  3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระแทกจมูก
    เช่น การออกกำลังกายหนักๆ หรือการเล่นกีฬา

  4. ทำความสะอาดแผลอย่างระมัดระวัง
    ใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ และหลีกเลี่ยงการเปียกน้ำ

  5. รับประทานยาและมาตรวจตามนัด
    ทานยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจติดตามผลตามกำหนด


การเสริมจมูกซิลิโคนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบางคน แต่ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกกรณี การทำความเข้าใจปัญหาเฉพาะตัวของจมูกและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าความสวยงามที่ยั่งยืนต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยเสมอ!

Post a Comment

0 Comments