เสริมจมูกซิลิโคน ไม่ได้เหมาะกับทุกคน!?
การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เหมาะกับใคร?
การเสริมจมูกซิลิโคนเหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงจมูกสวยอยู่แล้ว เพียงแค่ขาดความโด่งหรือมิติจากด้านข้าง เช่น:
- คนที่มีฐานจมูกได้รูป แต่ต้องการเพิ่มความสูงของดั้ง
- คนที่มองด้านหน้าแล้วจมูกดูสมส่วน แต่ขาดมิติเมื่อมองจากด้านข้าง
ซิลิโคนจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้ใบหน้าได้ในกรณีที่รูปทรงจมูกของคุณไม่ต้องการการแก้ไขโครงสร้างมากนัก
ใครที่ไม่เหมาะกับการเสริมจมูกซิลิโคน?
การเสริมจมูกซิลิโคนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก เช่น:
- จมูกสั้นเกินไป: การยืดปลายจมูกต้องใช้เทคนิคเสริมกระดูกอ่อนร่วมด้วย
- จมูกใหญ่หรือทรงชมพู่: ต้องแก้ไขโดยการลดขนาดจมูก
- ปีกจมูกบาน: จำเป็นต้องตัดปีกจมูกร่วมกับการเสริมดั้ง
- ฐานจมูกกว้าง: ต้องปรับโครงสร้างฐานจมูกก่อน
- จมูกไม่สมส่วนกับใบหน้า: ต้องพิจารณาปรับโครงสร้างร่วมกับการใช้ซิลิโคน
ในกรณีเหล่านี้ การศัลยกรรมแบบเปิด (Open Rhinoplasty) หรือการปรับโครงสร้างจมูกจะเหมาะสมกว่า
ศัลยกรรมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) และแบบเปิด (Open Rhinoplasty) คืออะไร
ศัลยกรรมจมูกแบบปิด
- การผ่าตัดแผลจะซ่อนอยู่ภายในรูจมูก โดยไม่เปิดแผลด้านนอก
- เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการปรับทรงดั้งจมูกหรือเพิ่มความโด่งเท่านั้น
- ข้อดี: เจ็บตัวน้อย แผลหายไว ไม่มีแผลเป็นภายนอก
ศัลยกรรมจมูกแบบเปิด
- เป็นการเปิดแผลขนาดเล็กที่ฐานจมูกบริเวณใต้รูจมูกเพื่อให้เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด
- เหมาะกับเคสที่ต้องการปรับโครงสร้างจมูก เช่น การยืดปลายจมูก การลดขนาดฐานจมูก
- ข้อดี: แพทย์สามารถปรับแต่งโครงสร้างจมูกได้ละเอียดมากขึ้น
- ข้อเสีย: มีแผลผ่าตัดภายนอก อาจใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าแบบปิด
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเสริมจมูกซิลิโคน
"เสริมจมูกซิลิโคนทำให้จมูกเล็กลงได้"
ไม่เป็นความจริง! การเสริมซิลิโคนเพิ่มความสูงของดั้ง แต่ไม่สามารถลดขนาดฐานจมูกหรือทำให้จมูกดูเล็กลงได้"เสริมจมูกซิลิโคนทำให้จมูกยาวขึ้น"
การใส่ซิลิโคนที่ยาวเกินไป อาจทำให้ผิวหนังที่ปลายจมูกบางลงจนซิลิโคนทะลุในอนาคต การยืดจมูกต้องใช้กระดูกอ่อนจากหลังหูหรือซี่โครงร่วมด้วย"เสริมซิลิโคนแล้วตัดปีกจมูกทำให้จมูกเล็กลง"
การตัดปีกจมูกช่วยให้ปีกเล็กลง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนขนาดจมูกโดยรวมได้"เสริมจมูกซิลิโคนแบบเปิดจะดีกว่า"
สำหรับเคสที่ไม่ต้องปรับโครงสร้าง การเสริมแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เพียงพอแล้ว การเปิดแผลใหญ่เกินไปอาจเป็นการเจ็บตัวโดยไม่จำเป็น
ข้อควรระวังในการเสริมจมูกซิลิโคน
- เลือกซิลิโคนที่เหมาะสม: ซิลิโคนมีหลายเกรดและหลายรูปทรง ต้องเลือกให้เข้ากับโครงหน้าของแต่ละคน
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: การประเมินปัญหาจมูกโดยละเอียดจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัย
- อย่าเน้นราคาถูกเกินไป: คลินิกราคาถูกอาจใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน
ขั้นตอนการเสริมจมูกซิลิโคน
ปรึกษาแพทย์
- ประเมินโครงหน้าและทรงจมูกที่เหมาะสม
- เลือกซิลิโคนเกรดและรูปทรงที่เหมาะกับคุณ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- งดแอลกอฮอล์ ยาแอสไพริน หรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1-2 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ล่วงหน้า
การผ่าตัด
- ทำความสะอาดและฉีดยาชาเฉพาะจุด
- แพทย์เปิดแผลตามเทคนิคที่เลือก (แบบปิดหรือแบบเปิด)
- ใส่ซิลิโคนตามตำแหน่งที่วางแผนไว้ ปรับทรงจมูกให้เหมาะสม
- เย็บปิดแผลและติดเฝือกเพื่อประคองทรงจมูก
การพักฟื้นหลังผ่าตัด
- พักในคลินิกหรือตามคำแนะนำของแพทย์
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกซิลิโคน
งดอาหารเสริมและยาที่มีผลต่อเลือด
เช่น น้ำมันปลา โสม แอสไพริน และวิตามินอี เพราะอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าลงงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายพร้อมรับการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกซิลิโคน
หลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูกโดยตรง
ห้ามจับหรือกดบริเวณจมูกแรงๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนของซิลิโคนนอนศีรษะสูง
ใช้หมอนรองคอหรือนอนหมอนสูงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวมหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระแทกจมูก
เช่น การออกกำลังกายหนักๆ หรือการเล่นกีฬาทำความสะอาดแผลอย่างระมัดระวัง
ใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ และหลีกเลี่ยงการเปียกน้ำรับประทานยาและมาตรวจตามนัด
ทานยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจติดตามผลตามกำหนด
การเสริมจมูกซิลิโคนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบางคน แต่ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกกรณี การทำความเข้าใจปัญหาเฉพาะตัวของจมูกและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าความสวยงามที่ยั่งยืนต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยเสมอ!
0 Comments